Sunday, 8 April 2012

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็รพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของพี่อขุนศรีอินทราทิตย์ กับพระนางเสือง พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 1782 พระนามเดิมไม่ปรากฏ เมื่อพระองค์พระชนมายุได้ 19 พรรษา ได้ตามเสด็จพระราชบิดา ไปรบกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอดที่เมืองตาก (ขุนสามชน เป็นพวกไทยใหญ่หรือไทยอาหมเป็นพวกที่อพยพมาตามลำน้ำคง) เจ้าเมืองฉอดตีทัพพ่อขุนศรีอินทราทิตย์แตก พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ขับช้างหนี แต่พระโอรสองค์ที่ 3 ขับช้างเบิกพลเข้าสู้ ไสช้างเข้าชน ขุนสามชนสู้ไม่ได้ แตกหนีพ่อยไป เมื่อกลับมาถึงสุโขทัยแล้ว พระราชบิดาจึงตั้งชื่อให้ว่า "พระรามคำแหง" เป็นบำเหน็จในการรบชนะพ่อขุนสามชน พ่อขุนรามคำแหงขึ้นเสวยราชย์ เมื่อ พ.ศ. 1820 ต่อจากพ่อขุนบาลเมือง ในรัชสมัยของพระองค์พระนามของพระองค์ถูกเรียกกันหลายพระนาม เช่น พ่อขุนรามคำแหง, พ่อขุนรามราช, พระบาทกัมรแดงอัญศรีรามราช, พระยารามราช, โรจนราช 
เมื่อพ่อขุนรามคำแหงมีพระชนมายุได้ 38 พรรษา พระองค์ทรงมีพระบรมเดชานุภาพมาก ไม่เพียงแต่จะเก่งกล้าในทางสงครามแล้ว พระองค์ทรงมีคุณธรรมอันล้ำเลิศ เพราะเป็นผู้ปฏิบัติต่อบิดา มารดาอย่างแรงกล้า เมื่อบิดามารดาตายไปแล้ว พระองค์ยังทรงปฏิบัติต่อพระเชษฐา คือขุนบาลเมือง เหมือนกับที่ทรงปฏิบัติต่อบิดา มารดา
เมื่อพระองค์เสวยราชย์แล้ว ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศใกล้เคียง ปกป้องอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ทรงปกครองเหมื่อพ่อปกครองลูก ทรงพระกรุณาเมตตาประชาราษฎร์ ทรงเป็นบูรพาจารย์ สั่งสอนราษฎรเหมื่อพ่อสั่งสอนลูกให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ อันเป็นพระราชภารกิจประจำวันของพระองค์
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงสรางความเจริญให้แก่อาณาจักรสุโขทัยเป็นอย่างมาก กล่วได้ว่ารัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหง เจริญรุ่งเรืองด้วย การพาณิชยกรรม การหัตถกรรม การศิลปกรรม การอุตสาหกรรมและการกสิกรรมรุดหน้ากว่าอาณาจักรอื่น ๆ
พ่อขุนราคำแหงมหาราช ครองราชย์อยู่ประมาณ 40 ปี ก็สวรรคต ในราว พ.ศ. 1860 พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านล้วนเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยในรุ่นต่อๆ มาเป็นอย่างมาก เราจึงยกย่อยให้พระองค์เป็น "มหาราช" นับเป็นกษัตริย์มหาราชพระองค์แรกของไทย

No comments:

Post a Comment